หน้าหลัก
ITA
LPA
ประกาศจากระบบ e-GP
ประกาศจากระบบ e-GP ในเครือข่าย
ช่องทางรับฟังความคิดเห็น
องค์การบริหารส่วนตำบลสนามแจง ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ
หน้าหลัก
หน้าหลัก
ข้อมูล
หน่วยงาน
ข้อมูล
หน่วยงาน
บุคลากร
บุคลากร
การบริหาร
บุคคล
การบริหาร
บุคคล
ข่าวสาร
ข่าวสาร
แผน
แผน
รายงาน
รายงาน
ระเบียบ
ระเบียบ
บริการ
ประชาชน
บริการ
ประชาชน
องค์การบริหารส่วนตำบลสนามแจง
Sanam Chaeng Subdistrict Administrative Organization
 
 
นางดวงแข ประยงค์หอม
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสนามแจง
 
 
สถานที่สำคัญ
 

หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา อำเภอบ้านหมี่ ลพบุรี  (จังหวัด ลพบุรี)
รูปชุดก่อน รูปชุดถัดไป
คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

ลำดับภาพที่ 1/10

ลำดับภาพที่ 2/10

ลำดับภาพที่ 3/10

ลำดับภาพที่ 4/10

ลำดับภาพที่ 5/10

ลำดับภาพที่ 6/10

ลำดับภาพที่ 7/10

ลำดับภาพที่ 8/10

ลำดับภาพที่ 9/10

ลำดับภาพที่ 10/10
<<
>>
X
 
ชื่อสถานที่ : หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา อำเภอบ้านหมี่ ลพบุรี
 
ที่ตั้ง : เลขที่109 หมู่ที่ 6 ตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
 
ข้อมูล : หลวงพ่อกบ เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปให้ความเคารพ และเลื่อมใสศรัทธา ชีวประวัติของท่านไม่ได้บันทึกไว้ชัดเจน เป็นแต่เพียงการเล่าขานสืบต่อกันมาว่า ท่านธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่ชายป่าด้านเขาสาริกา เมื่อประมาณปลายปีพ.ศ. 2430 โดยที่ไม่มีใครทราบวาท่านมาจากไหน ชาวบ้านพบครั้งแรกในสภาพนุ่งห่มจีวรเก่าคร่ำคร่า แบกไม้คานหาบกระบุงเปล่าไว้บนบ่าสองใบ เดินผ่านมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ชาวบ้านร้องทักว่า &ldquo;หลวงพ่อหาบกระบุงเปล่าไปทำไม&rdquo; ท่านก็ตอบว่า &ldquo;กูหาบมาใส่เงินใส่ทองโว้ย&rdquo; ว่าแล้วก็เดินดุ่ม ๆ เข้าไปพำนักในวัดเขาสาริกา หมู่ 6 ต.สนามแจง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ซึ่งสมัยนั้นเป็นวัดเก่า ๆ เกือบจะเป็นวัดร้าง



ชาวบ้านหลายคนพยายามถามว่าท่านเป็นใคร มาจากไหน ชื่ออะไร ท่านก็มักจะตอบว่า &ldquo;กูจะไปรู้ได้อย่างไร แม้แต่มึงเอง มึงยังไม่รู้ว่ามึงเป็นใคร มาจากไหน และมึงจะไปไหนต่อ&rdquo; ซึ่งเป็นคำตอบที่นอกจากจะไม่เข้าใจแล้วยังสร้างความงุนงงให้กับผู้ถามเพิ่มขึ้นไปอีก จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครทราบประวัติที่แท้จริงของท่าน ท่านไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังแม้แต่คนเดียว ใครถามมักตอบเพียงว่า &ldquo;กูไม่มีอดีต กูมีแต่ปัจจุบันและอนาคต และหากใครถามถึงอายุ ท่านจะว่า &ldquo;กูจำไม่ได้ แล้วไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย



หลวงพ่อกบมาถึงวัดเขาสาริกาไม่พูดจากับใคร นั่งบำเพ็ญเพียรภาวนา เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างเดียว ไม่ทำความรู้จักกับใครทั้งนั้น แม้พระภิกษุด้วยกันในวัดก็ไม่เคยพูดด้วย ท่านฉันภัตตาหารแต่น้อยไม่กี่คำก็เลิก ข้าวปลาอาหารที่ญาติโยมนำมาถวายก็โกยมากองรวมกัน โยนให้สุนัขและแมวกินเป็นประจำ ใครนำเงินทองมาถวายก็โยนเข้ากองไฟหมดเกลี้ยง ไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว



นานหลายปีที่หลวงพ่อกบนั่งบำเพ็ญเพียรเพียงรูปเดียวอยู่เช่นนั้น ก็เริ่มมีคนต่างถิ่นและคนแปลกหน้าเดินทางมากราบไหว้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์เล่า เรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานที่วัดเขาสาริกามากขึ้นทุกที สร้างความแปลกใจให้ชาวบ้านและพระในวัด เพราะท่านไม่เคยออกจากวัดไปไหน สอบถามทุกคนจะตอบว่า &ldquo;เคยใส่บาตรกับท่าน รู้สึกศรัทธาก็เลยมาหา บางคนมาจากเชียงใหม่บ้าง กรุงเทพฯบ้าง สุราษฎร์ธานีหรือภูเก็ตก็มี ไม่เว้นแม้สงขลา ยะลา ปัตตานี ยิ่งทำให้ชาวบ้านกังขามากขึ้น ซึ่งนับวันผู้คนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ท่านก็ไม่ค่อยพูดกับใครเหมือนเดิม ยกเว้นลูกศิษย์ใกล้ชิดไม่กี่คน



นับวันวัดเขาสาริกาจะกลายเป็นศูนย์รวมผู้ศรัทธาในตัวหลวงพ่อ ทำให้ถูกทางการสมัยนั้นจับตามองกล่าวหาว่าเป็นแหล่งมั่วสุมผู้คน พ.ศ. 2450 ทางการส่งเจ้าหน้าที่มาสอบถามและตรวจสอบ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงผู้คนมาปฏิบัติธรรมและไม่ได้เป็นที่ซ่องสุมผู้คนจึงกลับไป



ต่อมามีคณะพระผู้ใหญ่เดินทางมาหาหลวงพ่อกบอีกครั้ง เพื่อสอบสวนประวัติความเป็นมา เนื่องจากกลัวเป็นพวกลัทธิใหม่หรือพวกนอกรีต เนื่องจากพฤติกรรมของท่านค่อนข้างประหลาดไม่เหมือนพระทั่วไป แต่ท่านไม่ยอมบอกว่าเป็นใครและใครเป็นพระอุปัชฌาย์ จึงมีการทดสอบความรู้เรื่องธรรมะกันขึ้น ไม่ว่าจะถามเรื่องอะไร ในพระไตรปิฎกเล่มไหน หน้าอะไร หัวข้อเท่าไหร่ หลวงพ่อกบตอบถูกทั้งหมดและท่านถามกลับไปว่า &ldquo;หัวใจของพระพุทธศาสนาคืออะไร&rdquo; ปรากฎว่าไม่มีใครหรือพระเถรผู้ใหญ่ตอบได้แม้ แต่รูปเดียว เงียบกันหมด ท่านจึงเฉลยให้ฟังว่าหัวใจพุทธศาสนาก็คือ &ldquo;ศีล สมาธิ ปัญญา&rdquo; เพราะเป็นหนทางแห่งการพ้นทุกข์



เท่านั้นเองกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่พระผู้ใหญ่ไม่พอใจ สั่งให้หลวงพ่อกบลาสิกขาบท กล่าวหาว่าเป็นพระเถื่อน ไม่มีใบสุทธิบัตร พูดจาเพ้อเจ้อไร้สาระ ไม่น่าเชื่อถือ ท่านก็ไม่สนใจหรือเถียงอะไรยอมถอดจีวรออกลาสิกขาบทโดยดี หันมานุ่งขาวห่มขาวแทน ตอนนั้นลูกศิษย์ร้องไห้ระงมทั่ววัดเขาสาริกา เพราะสงสารท่าน จนหลวงพ่อบอกว่า &ldquo;พวกมึงจะร้องทำไมกันวะ พระก็คือพระวันยังค่ำ จะใส่อะไรก็เป็นพระ เหมือนทองจมขี้โคลน ยังไงก็เป็นทองนั่นแหละ&rdquo; ทำให้ลูกศิษย์คิดได้ว่า พระไม่ได้หมายถึงการนุ่งห่มผ้าเหลือง แต่หากสามารถลดละกิเลสได้ ไม่ว่าแต่งกายชุดอะไรก็ถือว่าเป็นพระอยู่วันยังค่ำ พระแท้ พระดีจึงมิไช่อยู่ที่ผ้าเหลืองด้วยประการฉะนี้



ที่มาของชื่อ &ldquo;หลวงพ่อกบ&rdquo;



หลวงพ่อกบจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาถ้ำสาริกา ผ่านไปหลายปี ชื่อเสียงของท่านโด่งดังมาก ครั้งหนึ่งช่วงออกพรรษาปี พ.ศ.ใดไม่ชัดเจน มีกฐินจากกรุงเทพฯ มาทอดที่วัดภายหลังเสร็จสิ้นจากพิธีถวายกฐิน ญาติโยมจากกรุงเทพฯ จำนวนหนึ่งจำเป็นต้องค้างแรมที่วัด หลวงพ่อท่านเมตตาให้ค้างแรมในกุฏิ คืนนั้นหลายคนนอนไม่หลับ เพราะไม่ได้ทานข้าวเย็น เนื่องจากที่วัดจัดให้มีไม่พอ เวลาผ่านไปประมาณ 3 ทุ่ม ก็บังเกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาด ท้องฟ้าที่เคยแจ่มใส พลันก็เกิดเมฆดำทะมึนก่อตัวขึ้น สักครู่เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า พร้อมฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา สายน้ำไหลเจิ่งนอง ประสานเสียงร้องของกบดังไปทั่ว มองลงไปที่ลานหน้ากุฏิ เต็มไปด้วยกบตัวใหญ่ๆ กระโดดโลดเต้นไปมา &ldquo; พวกเอ็งหิวไหมวะ &rdquo; เสียงเอ่ยถามของหลวงพ่อ ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน &rdquo; หิวขอรับ &rdquo; &ldquo; ถ้างั้นเอ็งรอเดี๋ยว กูจะลงไปแทงกบมาให้พวกเอ็งทำต้มยำกิน &rdquo;



ว่าแล้วท่านก็คว้าฉมวกลงกุฏิไปอย่างรวดเร็ว พวกเขามองตามลงไป เห็นหลวงพ่อกำลังใช้ฉมวกทิ่มแทงกบตัวแล้วตัวเล่า อนิจจา!!! ศรัทธาของพวกเขาเริ่มเหือดหายไป แต่ด้วยความหิว คืนนั้นต้มยำกบหม้อใหญ่ก็ถูกกินจนเกือบหมดเช้าวันรุ่งขึ้น มีคนหนึ่งสงสัยว่า ต้มยำกบที่เขากินเมื่อคืนเป็นกบจริงๆ หรือเปล่า เขาจึงย่องเข้าไปดูในโรงครัว เมื่อเปิดฝาหม้อดู เขาก็ต้องผงะ ตกตลึงด้วยความอัศจรรย์ใจ ด้วยว่าสิ่งที่เห็นอยู่ในหม้อหาใช่กบไม่ แต่เป็นยอดกระถิน และใบมะขามอยู่เกือบครึ่งค่อนหม้อ เหตุการณ์นี้ถูกนำมาเล่าต่อๆ กันมาว่า หลวงพ่อท่านสร้างปาฏิหาริย์เสกใบไม้ให้กลายเป็นกบ จนกลายมาเป็นที่มาของนามท่าน &ldquo; หลวงพ่อกบ &rdquo; แต่ในบรรดาลูกศิษย์ใกล้ชิดที่ได้รับการสอนธรรมะมักจะเรียกท่านว่า &ldquo;สมเด็จพระบรมครู หมายถึง ครูคนแรกในการสอนวิปัสสนากัมมัฏฐาน แต่ภายหลังกลายมาเป็น สมเด็จพระบรมครูหลวงพ่อเขาสาริกา หรือ หลวงพ่อเขาสาริกา แต่คนทั่วไปมักเรียกท่านว่า หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา จนทุกวันนี้
 
 
ผู้เข้าชม 2472 ท่าน         
 
 
 
" มุ่งมั่น เพื่อสนามแจงน่าอยู่ "
 
 
 
NAXSOLUTION
Web Appication Design
 
 
 
     
 
 
     
 
 
 
รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์
ให้บริการ ข้อมูลข่าวสาร
ให้คำปรึกษา รับเรื่องปัญหา
ความต้องการและ ข้อเสนอแนะ
ของประชาชน
คู่มือประชาชน
  SERVICE
แบบฟอร์ม เอกสาร
เพื่ออำนวยความสะดวก
ในการติดต่อราชการ
 
 
องค์การบริหารส่วนตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี 15110 โทรศัพท์ : 036-471-080 โทรสาร : 036-471-080
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2551 ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ 2537 องค์การบริหารส่วนตำบลสนามแจง
จำนวนผู้เข้าชม 1,669,087 เริ่มนับ 6 ก.ค. 2565 จัดทำโดย : NAXsolution.com
นโยบายเว็บไซต์ | นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ | นโยบายคุกกี้ | แผนผังเว็บไซต์
Version ขั้นต่ำของ Browser IE9 / Firefox 3.5 / Chrome / Safari4 / Opera10
 
 
รับเรื่องร้องเรียน
โทร : 089-538-9028